9 มิ.ย.2566 เวลา 11.50 น. ที่สนามกีฬาหน้าที่ว่าการอำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พรรคก้าวไกลนำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายรังสิมันต์ โรม ว่าที่ ส.ส. บัญชีรายชื่อและโฆษกพรรคก้าวไกล ลงพื้นที่ขอบคุณประชาชนและประชุมร่วมกับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต
โดยทันทีที่ทั้งหมดเดินทางมาถึงได้เดินมาที่เวทีกลางสนาม โดยจัดเป็นเวทีรูปวงกลมสีดำคล้ายกับการปราศรัยครั้งสุดท้ายของพรรคก้าวไกล
นายพิธา ได้อุ้มลูกชายของแฟนคลับที่มารอต้อนรับด้วย สร้างสีสันและเสียงเชียร์ให้กับผู้มาต้อนรับคำพูดจาก ปั่นสล็อตแตกทุกเกม
นายรังสิมันต์ กล่าวสวัสดีชาวภูเก็ต พร้อมระบุว่า มากันเยอะ ตนขอบคุณพี่น้องภูเก็ตทุกคน ที่มาส่งเสียงให้กำลังใจให้กับพรรคก้าวไกล ตนเป็นลูกหลานของคนภูเก็ต เติบโตมาที่นี่ และมีความทรงจำที่นี่ พร้อมถามว่าวันนี้สำหรับการเมืองที่จังหวัดภูเก็ตเปลี่ยนไปแล้วหรือไม่ ตนรู้ว่าที่ทุกคนมารวมตัวกันเพราะอยากได้ยินเสียงนายกรัฐมนตรี คนที่ 30
เพื่อนเด็กม.3 ดิ่งเสาโทรศัพท์ แฉ!คลิปถูกครูบังคับคุกเข่าต่อหน้าเพื่อน
โต้กลับ “ผู้กองแคท” ย้ำไม่ติดใจประเด็นอวดยศ-จี้เปิดคะแนนสอบ
จากนั้นนายรังสิมันต์ได้ส่งไม้ต่อให้นายพิธา ซึ่งรายพิธา ขึ้นบนเวทีกล่าวว่า “Phuket , are you ready ? พี่น้องชาวภูเก็ต ที่เคารพรักทั้งหลาย พวกเราชนะแล้ว ข่าวที่แล้วลงมาผมบอกเขาว่าทั่วทั้งประเทศไทย “ภูเก็ตเด็ดทั้งเกาะ เด็ดไม่เด็ดไม่รู้ ก็แค่ส้มยกจังหวัด”
นายพิธา กล่าวว่า วันนี้เราจึงต้องลงมาขอขอบคุณความไว้วางใจจากพี่น้องชาวภูเก็ต ที่ชาวภูเก็ตมอบคะแนนเสียงให้กับพวกเราในปี 2566 ทำให้ได้คะแนนเสียงมากกว่าเลือกตั้งปี 2562 จำนวน 1 เท่าตัวเต็ม วันนี้ภูเก็ตไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และสำหรับตน มาในฐานะ Brand Ambassador การท่องเที่ยว และคนที่เคยขับเคลื่อนเรื่องสุราก้าวหน้า รวมถึงหัวหน้าพรรคการเมืองที่มี ส.ส. 3 คน 3 เขต คอยรับใช้ประชาชนชาวภูเก็ต และสุดท้ายมาในฐานะว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของประเทศไทย
“พี่น้องชาวภูเก็ตรู้ตัวหรือไม่ ว่าคะแนนของพวกท่านมีความหมายกับตัวผมมากแค่ไหน รู้ตัวบ้างไหมเนี่ย ตอนก่อนเลือกตั้งเขาบอกคราวนี้จะได้กี่เสียงกัน ตอนอนาคตใหม่ ส้มหล่น ผมบอกว่าเลือกตั้งครั้งนี้หัวหน้ามีเป้าหมาย ต้องได้ ส.ส.เยอะกว่าครั้งที่แล้ว และเขตต้องมากกว่าบัญชีรายชื่อ เพราะเราต้องการเป็นพรรคการเมืองของประชาชน ของมวลชน และจะเป็นภาคระดับชาติได้ไม่ใช่แค่พรรคท้องถิ่นหรือพรรคภูมิภาค จึงต้องมี ส.ส. ให้ครบทุกภูมิภาค อันที่หนึ่ง คราวที่แล้วได้มา 6 ล้านเสียง คราวนี้ได้มา 14 ล้านเสียง มากกว่าเดิม 2 เท่า อันที่สอง ได้ ส.ส.เขตมา 100 กว่าคน บัญชีรายชื่อได้มา 40 กว่าคน เป้าที่ 2 สำเร็จเรียบร้อย ส่วนเป้าที่สามจะเอาให้ครบทุกภูมิภาค หาเสียงอย่างถล่มทลาย คิดถึงพี่น้องที่สงขลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช” นายพิธา กล่าว
“คราวนี้ไม่เป็นไรคราวหน้าผมไม่ปล่อยไว้แน่นอน แต่เดชะบุญนั่งอยู่ที่พรรค นั่งไล่ดูแต่ภาคใต้นี่แหละ ภาคเหนือก็แตกแล้ว ภาคอีสานก็แตกแล้ว ภาคกลางก็แตกแล้ว ภาคตะวันตกก็แตกแล้ว ภาคใต้ จะแตกไม่แตกเนี่ย สรุปภูเก็ตไม่เคยทำให้ผิดหวัง แตกหมดทั้ง 3 เขต จังหวัดภูเก็ตนอกจากเป็นไข่มุก อันดามันแล้วยังเป็นไข่มุกในใจผมด้วย” นายพิธา กล่าว
นายพิธา กล่าวอีกว่า 40 % ของพี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ตให้ความไว้วางใจพรรคก้าวไกล ขอสัญญาว่าจะไม่ทำให้ไข่มุกเม็ดนี้ผิดหวังแน่นอน นอกจากจะมาขอบคุณทุกคน มาให้ความมั่นใจว่าจะดูแลทุกคนเป็นอย่างดี ขณะเดียวกันยังมีอีก 60% ของพี่น้องชาวจังหวัดภูเก็ตที่ยังไม่ให้ความไว้วางใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ แต่ไม่เป็นไร ตนรับใช้ทุกคน
นายพิธา ย้ำว่า อีกเป้าหมายหนึ่งที่เร่งด่วนมาก ตนต้องการเอาภูเก็ต ไข่มุกในใจตนและไข่มุกอันดามัน ให้เป็นไข่มุกของโลกให้ได้เร็วที่สุด ในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ (เล่นมุกว่ามิถุนายน ไม่ใช่มิถุนาคม) ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส จะมีการตัดสินใจว่าจะใช้เมืองไหนจัดงาน World Expo ประเทศไทยส่งภูเก็ตเข้าประกวด
“อเมริกาจะส่ง Minnesota ประเทศสเปนจัดส่งเมืองของเขา เซอร์เบียร์ก็จะส่งเมืองของเขา เราลงทุนประมาณ 5,000 กว่าล้าน เศรษฐกิจหมุนขึ้น 10 กว่าเท่า ชาวภูเก็ตจะได้รวย รวย รวยและรวย ดูเวลาตอนนี้เหลืออีกแค่ 10 กว่าวัน ทั่วโลกจะมีการโหวตกันว่าจะเอาภูเก็ตเป็นเมืองจัดงาน World Expo หรือไม่ คราวนี้ถึงได้เริ่มต้นทักทายเป็นภาษาอังกฤษ ถามว่า Phuket , are you ready ? แล้วส่งเสียงไปถึงปารีสแล้ว” นายพิธากล่าว
หลังจากนั้นนายพิธา ได้นัดแนะทำโควท เพื่อส่งเสียงไปทั่วโลกว่าจังหวัดภูเก็ตมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพ World Expo โดยนายพิธานำพูดว่า Phuket , are you ready ? จากนั้นประชาชนตอบ Yes นายพิธาจะต่อว่า Phuket is safe. และ Phuket is strong. จากนั้นประชาชนร่วมกันปรบมือให้ 3 ครั้ง
นายพิธา กล่าวต่อว่า ตนทำการบ้านมาแล้วว่า ปกติจะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภูเก็ตประมาณ 8 ล้านคน กลับปีที่ผ่านมาเหลือประมาณ 4 แสนคน ปีนี้มี 1.7 ล้านคน ยังหายไป 4 เท่าต้นจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปที่จะจัดการ 1.เศรษฐกิจ 2.สุขภาพ 3.แรงงานหมอพยาบาล 4.สิ่งแวดล้อม
“ยังมีอีก 2 ค.ควาย ที่ต้องออกไปคือค้ายา ต้องหมดไปจากภูเก็ต และคอรัปชั่นต้องหมดไป” นายพิธา กล่าว
ภายหลังปราศรัยขอบคุณเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง นายพิธาได้แจกลายเซ็นพร้อมกับถ่ายรูป เซลฟี่กับพี่น้องประชาชน ซึ่งประชาชนส่วนหนึ่งได้ต่อแถวเป็น 2 แถวขนาบข้างนายพิธาจนถึงรถ จากนั้นนายพิธาได้เดินทางต่อไปที่โรงแรมดีวาน่าภูเก็ต เพื่อพบหาคุยกับภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในช่วงบ่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างที่มีการปราศรัยมีนักเรียนโรงเรียนกะทู้วิทยา ระดับมัธยมได้เกาะรั้วโรงเรียน ฟังการปราศรัยพร้อมตะโกนเรียกนายพิธาว่านายกฯ ขอให้มาถ่ายรูปกับพวกตนบ้าง