จากกรณีส่วยสติกเกอร์ ส่วยรถบรรทุก ที่เป็นประเด็นร้อนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ล่าสุดพีพีทีวี ได้ข้อมูลมาว่า ส่วยสติกเกอร์รถบรรทุกยังมีอยู่ แต่ก็มีไม่มากและส่วนที่หายไป ไม่ใช่เลิกขาด แต่กลุ่มรถบรรทุกและแก๊งเก็บส่วย เปลี่ยนไปใช้วิธีการอื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบแทนคำพูดจาก เกมสล็อตมาใหม่
โดยมีหลักฐานเป็นแชตไลน์ ซึ่งยืนยันได้ว่า ยังมีส่วยสติกเกอร์อยู่ โดยรูปสติกเกอร์ คือ “โสภณ 38” พร้อมข้อความระบุว่า เป็นสติ๊กเกอร์แบบรายเดือน ราคาประมาณ 10,000-12,000 บาท วิ่งได้ 4 จังหวัด ศรีสะเกษ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร
สหพันขนส่งทางบกฯ ส่งไม้ต่อ “วิโรจน์”ดำเนินการส่วยรถบรรทุก
นิด้าโพล เผย รถบรรทุกเกินกว่าน้ำหนัก เป็นจุดเริ่มต้นส่วยสติกเกอร์
ป.ป.ช.ยันเอาผิดขบวนการส่วยได้ หากพยานหลักฐานเพียงพอ
ทั้งนี้รถที่วิ่งส่วนใหญ่เป็นรถที่วิ่งส่งโรงโม่หิน ส่วนที่สติกเกอร์ มีคำว่า “โสภณ” ก็เพราะว่า นายโสภณ เป็นคนขายสติกเกอร์หรือเป็นคนจัดการเรื่องวิ่งน้ำหนักเกิน เป็นคนคอยเคลียร์ให้
ข้อมูลนี้ นายศุภศักดิ์ รุ่งเจิดฟ้า ประธานที่ปรึกษาสมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย และที่ปรึกษาสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เป็นคนส่งให้ทีมข่าว พร้อมบอกว่า ตอนนี้ส่วยสติกเกอร์ส่วยเริ่มกลับมาแล้วบางส่วน
โดยรถที่จ่ายส่วย รับเคลียร์จะเป็นรถที่วิ่งระยะสั้น 3-4 จังหวัด เพราะรถระยะยาวจะเสี่ยง ตอนนี้เจ้าหน้ากวดขันจับกุมมากขึ้น ทั้งนี้จากข้อมูลพบว่า สติกเกอร์ส่วย ”โสภณ38” เป็นเพียงสติกเกอร์ส่วนหนึ่งที่ใช้กันในกลุ่มเล็กๆ ยังมีข้อมูลสติกเกอร์กลุ่มอื่นอีก ตอนนี้ทางสหพันธ์กำลังรวบรวมหลักฐานอยู่
และนอกจากแบบสติกเกอร์แล้ว ตอนนี้ยังพบแบบใหม่ ใช้วิธีการส่งทะเบียน ตั้งกลุ่มไลน์ หากรถถูกเรียกตรวจหรือถูกจับ คนขับรถก็จะแจ้งเลขทะเบียนและพิกัดที่ถูกจับ เพื่อให้คนรับเคลียร์ติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ปล่อยรถ
ทั้งนี้ด้าน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจทางหลวง ยืนยันว่า กวดขัดต่อเนื่อง และ จริงๆทำงานร่วมกับ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย อย่างใกล้ชิด ที่ผ่านมาเวลาแจ้งมาก็จะดำเนินการจับกุมต่อเนื่อง แต่ก็ต้องยอมรับว่าหลายครั้งพิกัด ข้อมูลไม่ชัดเจนทำให้ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้
ส่วนเรื่อง ส่วยสติกเกอร์ โสภณ 38 นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่า ตรวจสอบแล้วมีจริง สั่งการแล้วล่าสุด ว่าให้ไปดำเนินการทันที
ส่วนที่ก่อนหน้านี้ มีการสั่งตรวจสอบ ตำรวจทางหลวง 40 นาย จากกรณีส่วย ล่าสุด พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า สั่งการดำเนินคดีอาญา ไปแล้ว 6 นาย เป็นชุดเฉพาะกิจ ระดับ รองผู้กำกับ 1 นาย รองสารวัตร 1 นาย ชั้นประทวน 4 นาย นอกจากนั้นยังมีตำรวจอีก 23 นาย ถูกพาดพิงว่าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และคณะกรรมตรวจสอบเชื่อว่ามีหลักฐานเชื่อมโยง แต่ทั้งหมดไม่ยอมให้การใดๆ จึงสรุปเชื่อว่ามีตำรวจที่เกี่ยวข้อง 29 นาย ที่เหลือ 11 นาย เป็นตำรวจที่ถูกดำเนินคดีในเรื่องการเรียกรับผลประโยชน์อยู่แล้ว จึงออกคำสั่งย้ายไปพร้อมกัน โดยมีการให้เข้าอบรม 1 เดือน แล้วส่งกลับภายใต้เงื่อนไข
คือ 1.ห้ามกลับไปปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับประชาชน เช่นจากสายตรวจ อาจย้ายไปทำงานธุรการ 2.ห้ามยุ่งเกี่ยวกับการทุจริต หากตรวจสอบพบทั้งทางตรงและทางอ้อมจะถูกดำเนินคดีตั้งแต่ผู้บังคับบัญชา โดยยืนยันทำงานร่วมกับภาคเอกชนและไม่ได้นิ่งดูดาย
ส่วนประเด็นรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม และภรรยาที่ถูกกล่าวหาว่าอาจไปเกี่ยวข้องกับ “ส่วยสติกเกอร์กระต่ายสีฟ้า” ได้ส่งรายงานสอบสวนข้อเท็จจริงไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งต้องรอผลการสรุปอีกครั้ง เบื้องต้นพบว่าไม่ใช่แค่ตำรวจแต่มีผู้เกี่ยวข้องอีกหลายหน่วยงาน
ประกาศฉบับที่ 19 “ฝนตกหนักถึงหนักมาก” เตือน! พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม
วอลเลย์บอลหญิงไทย ชนะ เวียดนาม 3-1 เซต ลิ่วดวล ญี่ปุ่น ศึกชิงแชมป์เอเชีย AVC 2023
“กรดยูริก” สะสมในเลือดสูงกระตุ้นโรคเกาต์ พบได้ที่ไหนบ้าง?